ลูกอ่อนของแม่ 
แปลจาก My Infant
​แรกเกิดถึง ๕ เดือน
ในระหว่างแรกเกิดถึงห้าเดือน ลูกน้อยของคุณแม่จะเรียนรู้การใช้มือ แขนขาและลำตัวอย่างประสานกันและเพื่อเป้าหมายที่ต้องการ
การสื่อสาร
  • ลูกน้อยของคุณแม่หลงไหลได้ปลื้มกับอารมณ์ของเสียงและสีหน้าท่าทางที่แสดงออกของผู้พูด ลูกสุดรักเสียงสนทนาและเพลงของแม่ คุณจึงควรพูดประกอบการกระทำเช่นเล่าให้ลูกฟังว่าคุณกำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้อย่างไรในขณะที่คุณทำเช่นนั้น  คุณสามารถเล่าแผนประจำวัน หรือสิ่งต่างๆที่มีอยู่ในห้องนั้น ลูกน้อยจะรื่นรมณ์กับเสียงพูดของคุณและเฝ้ามองการขยับของปากในขณะที่คุณพูดด้วย
  • เมื่อลูกน้อยเห็นปากคุณเคลื่อนไหวในขณะพูดปากของลูกก็จะขยับตามไปด้วย  หลีกเลี่ยงการใช้จุกนมใส่ปากเด็กจะช่วยลูกน้อยเคลื่อนไหวปากและฝึกหัดออกเสียงได้ 
  • ลดเสียงดนตรีหรือเสียงจากโทรทัศน์เพื่อช่วยให้ลูกปรับการรับฟังเสียงและภาษาของคุณได้อย่างดี 
  • การอ่านหนังสือให้ลูกน้อยไม่มีคำว่า “ยังเล็กเกินไปไม่มีประโยชน์”  ทารกน้อยๆทั้งหลายรื่นรมณ์กับหนังสือภาพสีสดใสซึ่งอาจมีคำบรรยายประกอบเพียงหนึ่งหรือสองคำในแต่ละหน้า 
การเคลื่อนไหว 
  • ทารกน้อยต้องการโอกาสในการเคลื่อนไหวอย่างเสรี ลูกน้อยของคุณจะเรียนรู้การประสานงานการเคลื่อนไหวและมีแขนขาที่แข็งแรงถ้าได้มีโอกาสได้ฝึกหัดมากๆ 
  • ฝูกบางบนพื้นให้พื้นที่ปลอดภัยและสะดวกในการเคลื่อนไหว กระจกบานใหญ่วางในแนวนอนติดบนผนังตามขนาดความยาวของฝูกจะช่วยลูกรักให้มีโอกาสมองเห็นตัวเองและการเคลื่อนไหวของร่างกาย นอกจากนั้นกระจกยังเป็นเครื่องมือพัฒนาทางสังคมให้แก่ลูกเพราะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะเข้าใจว่าเด็กในกระจกคือตัวของลูกเอง 
  • ลูกอ่อนมักชอบนอนหงายแต่เวลาสำหรับนอนคว่ำในแต่ละวันก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกรักเช่นกัน ถ้าลูกนอนคว่ำพอได้แล้วคุณก็ควรนอนลงเล่นกับลูกจนลูกรักสุขสบายในท่านั้น
  • การให้ลูกได้ฝึกหัดเคลื่อนไหวแบบใหม่ตามเวลาของลูก คุณจะมั่นใจได้ว่าลูกรักได้สร้างความแข็งแรงที่จำเป็นแล้ว การพยายามจับให้ลูกนั่งหรือยืนก่อนเวลาที่ลูกรักทำได้เองบ่อยๆเป็นการผลักดันก่อนเวลาที่กล้ามเนื้อของลูกจะแข็งแรงพอ 
  • เมื่อลูกรักเริ่มเคลื่อนไหว คุณควรสังเกตเสื้อผ้าอาภรณ์ของลูกอย่าให้กีดขวาง เสื้อผ้าสิ่งห่อหุ้มตัวที่หลวมหรือรัดเกินไปจะปิดกั้นการพัฒนาของลูก!
ความรัก
  • เมื่อลูกรักรู้สึกปลอดภัยและได้รับความรักจากคุณแม่และสมาชิกอื่นๆของครอบครัว ความรู้สึกนี้จะป้อนพัฒนาการให้แก่สุขภาพสมอง
  • ความรู้สึกได้รับความรักและการยอมรับนี้เป็นการสนับสนุนสุขภาพจิตและพัฒนาการทางสังคมของลูกรักของคุณแม่
  • คุณสามารถแสดงความรักต่อลูกได้อย่างชัดเจนเมื่อลูกร้อง การโอบอุ้มลูกรักอย่างถนุถนอมและอ่อนโยน แม้เวลาเปลี่ยนผ้าอ้อมและการสบตากับลูกเสมอๆ

๖ ถึง ๑๒ เดือน
ในเวลา ๖ ถึง ๑๒ เดือน นี้ เป็นเวลาน่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับพัฒนาการของลูกรัก เพราะเราจะเห็นพัฒนาการจากการนอนคว่ำบนท้องตัวเองของลูกไปจนเริ่มเคลื่อนที่หรือจับเครื่องเรือนเพื่อยืนสองเท้าหรือแม้แต่ออกเดินได้แล้ว!
การสื่อสาร
  • ลูกรักยังคงสนใจฟังเสียง อารมณ์ของน้ำเสียง และรักที่จะเฝ้าดูการแสดงสีหน้าท่าทางของผู้พูด เพลงที่ร้อง คำพูดที่สนทนากับลูกรักของคุณแม่เป็นวิธีเรียนรู้เพื่อพูดได้ต่อไปของคุณลูก  เซลสมองซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษช่วยเด็กเล็กซึมซับรับภาษาได้ทั้งมวลเพียงแค่ได้รับฟัง ดังนั้นภาษาทั้งมวลที่อยู่รายล้อมรอบตัวลูกยิ่งมีมากลูกก็เรียนได้มาก คุณแม่บอกเล่าว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ เช่นอาบน้ำให้ลูกหรือบอกถึงสิ่งที่จะทำต่อไปในวันนั้น คุณบอกชื่อสิ่งของต่างๆที่อยู่รอบตัวลูกในห้องนั้น นอกจากภาษาที่ได้รับแล้วลูกรักยังปลาบปลื้มกับการฟังและเฝ้าดูปากที่ขยับเคลื่อนไหวในขณะที่คุณพูด 
  • เมื่อลูกน้อยเห็นปากคุณเคลื่อนไหวในขณะพูดปากของลูกก็จะขยับตามไปด้วย  หลีกเลี่ยงการใช้จุกนมใส่ปากเด็กจะช่วยลูกน้อยเคลื่อนไหวปากและฝึกหัดออกเสียงได้ 
  • ลดเสียงดนตรีหรือเสียงจากโทรทัศน์เพื่อช่วยให้ลูกปรับการรับฟังเสียงและภาษาของคุณได้อย่างดี 
  • การอ่านหนังสือให้ลูกน้อยไม่มีคำว่า “ยังเล็กเกินไปไม่มีประโยชน์”  ทารกน้อยๆทั้งหลายรื่นรมณ์กับหนังสือภาพสีสดใสซึ่งอาจมีคำบรรยายประกอบเพียงหนึ่งหรือสองคำในแต่ละหน้า ลูกรักจะสามารถถือหนังสือที่ทำจากกระดาษเข็งหรือผ้าได้แล้ว และอาจดูไปด้วยกับกับคุณแม่หรือหนูดูเองตามลำพัง
การเคลื่อนไหว
จาก ๖ เดือนขึ้นไป “ลูกไปละนะ” ซึ่งลูกรักแต่ละคนจะถึงเป้าหมายตามเวลาที่เหมาะแก่ตัวลูกเอง  พัฒนาการโดยรวมเป็นเช่นอธิบายต่อไป
  • ลูกน้อยต้องการโอกาสในการเคลื่อนไหวอย่างเสรี ลูกน้อยของคุณจะเรียนรู้การประสานงานการเคลื่อนไหวและมีแขนขาที่แข็งแรงถ้าได้มีโอกาสได้ฝึกหัดมากๆ
  • ฝูกบางบนพื้นให้พื้นที่ปลอดภัยและสะดวกในการเคลื่อนไหว กระจกบานใหญ่วางในแนวนอนติดบนผนังตามขนาดความยาวของฝูกจะช่วยลูกรักให้มีโอกาสมองเห็นตัวเองและการเคลื่อนไหวของร่างกาย นอกจากนั้นกระจกยังเป็นเครื่องมือพัฒนาทางสังคมให้แก่ลูก!
  • ลูกรักกำลังเดินสายไปสู่ความสำเร็จของพัฒนาการแห่งการเคลื่อนไหว การให้ลูกได้ฝึกหัดเคลื่อนไหวแบบใหม่ตามเวลาของลูก คุณจะมั่นใจได้ว่าลูกรักได้สร้างความแข็งแรงที่จำเป็นแล้ว การพยายามจับให้ลูกนั่งหรือยืนก่อนเวลาที่ลูกรักทำได้เองบ่อยๆเป็นการผลักดันก่อนเวลาที่กล้ามเนื้อของลูกจะแข็งแรงพอ
  • อะไรๆดูเปลี่ยนไปเมื่อเปลี่ยนจากนอนดูเป็นนั่งดู! ลูกรักจะต้องได้โอกาสมากๆเพื่อฝึกการทำงานประสานกันของตาและมือในการเคลื่อนไหวด้วยมิติมุมมองใหม่ ถ้าได้ฝึกมากการเชื่อมโยงในสมองก็จะเข้มแข็งมาก
  • เมื่อลูกรักเริ่มเคลื่อนไหว ตรวจดูเสื้อผ้าอาภรณ์ของลูกอย่าให้กีดขวาง เสื้อผ้าสิ่งห่อหุ้มตัวที่หลวมหรือรัดเกินไปจะปิดกั้นการพัฒนาของลูก! แม้แต่สิ่งของต่างๆที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อม เมื่อลูกรักเริ่มคลานแม้แต่ฝูกรองพื้นก็เป็นอุปสรรค์กีดขวางการเคลื่อนไหวได้ 
ความรักและความผูกพันธ์
ทารกและเด็กเล็กต้องการความสัมพันธ์ที่รักไคร่ อย่างมั่นคงและปลอดภัยซึ่งเป็นเครื่องมือในการควบคุมระดับความเครียด ความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่งนี้รวมถึง คุณแม่ คุณพ่อ และสมาชิกครอบครัว รวมถึงผู้เลี้ยงดูเด็กในสถานรับเลี้ยงหรือศูนย์พัฒนาเด็ก  เมื่อลูกน้อยรู้สึกถึงความรักก็จะป้อนไปสู่การพัฒนาของสุขภาพดีของสมอง
  • ลูกรู้สึกได้รับความรักและการยอมรับจะเป็นการสนับสนุนพัฒนาการทางอารมณ์และความเจริญและพัฒนาการทางสังคม
  • ทารกและเด็กเล็กรับรู้ข้อมูลวิธีประพฤติตัวจากสถานการณ์ทางสังคมที่เห็นจากผู้ใหญ่ในชีวิต เราท่านทั้งหลายที่เป็นผู้ใหญ่คือแบบอย่างทางพฤติกรรมของลูกรัก
ลูกของฉัน My Child
สำหรับดาวโหลด: 
ลูกน้อยแรกเกิดของแม่_แปลจาก_my_newborn.pdf
File Size: 516 kb
File Type: pdf
Download File
​Credits
  • Thank you Montessori Australia for allowing Montessori Association of Thailand for using the content
  • Thank you Ms. Kannekar Butt for help in translation to Thai.